Posts tagged คณะครุศาสตร์

จี้คุมเข้มผลิตครูคุณภาพหวั่นล้นตลาด

จากไทยรัฐออนไลน์
วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2554
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เผย นักเรียนสมัครเรียนครูสูงมากขึ้น แนะรัฐบาลหนุนผู้เรียนจริงจัง โดยการให้ทุน การันตีมีงานทำ เพื่อให้มีคุณภาพ…

รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยว่า การรับนักศึกษาของ มร.สส. ปีการศึกษา 2554 มีแผนรับประมาณ 4,000 คน ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นระบบโควตา ร้อยละ 30 ระบบรับตรง ร้อยละ 40 และระบบแอดมิชชั่น ร้อยละ 30 โดยในระบบรับตรงและระบบโควตานั้น มีนักเรียนมาสมัครเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าเรียนสูงถึง 17,000 กว่าคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้สมัครเข้าเรียนในคณะครุศาสตร์สูงถึง 7,700 กว่าคน ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากหากเปรียบเทียบกับจำนวนที่รับได้เพียง 220 กว่าคนเท่านั้น การที่มีผู้สนใจมาสมัครเข้าเรียนคณะครุศาสตร์มากขนาดนี้เป็นเพราะมั่นใจว่า เรียบจบแล้วมีงานทำแน่นอน เนื่องจากรัฐบาลประกาศชัดว่ามีครูขาดแคลนสูงถึง 20,000-30,000 อัตรา สาเหตุของการขาดแคลนเกิดจากความผิดพลาดในการจำกัดอัตรากำลังข้าราชการครู

อธิการบดี มร.สส. กล่าวอีกว่า แม้ว่ามีเด็กให้ความสนใจมาสมัครเข้าเรียนสายครุศาสตร์มากขึ้น ซึ่งแน่นอนจะทำให้ได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาอยู่สายครูเพิ่มมาก ขึ้น ดังนั้น รัฐบาลเองจึงไม่ควรละทิ้งโอกาสอันดีนี้ โดยต้องรีบให้การสนับสนุนผู้ที่เข้ามาเรียนสายครุศาสตร์อย่างจริงๆจังๆทันที ทั้งเรื่องการให้ทุน การการันตีการมีงานทำ การควบคุมการผลิตบัณฑิตสายครูให้มีคุณภาพเหมือนกับสภาการพยาบาล

“ผม ไม่อยากเห็นผู้ที่จะเข้าสู่วิชาชีพครูจบและได้ใบประกอบวิชาชีพกันง่ายๆ เหมือนทุกวันนี้ คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้สถาบันไหนก็ผลิตได้ สุดท้ายเด็กจบออกมาไม่มีคุณภาพ ไม่มีงานทำก็ไม่มีใครรับผิดชอบ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า คนเรียนครูก็คงล้นตลาดอีกรอบ ดังนั้น สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้” รศ.ดร.ช่วงโชติกล่าว.

Leave a comment »

ทุ่ม 4 พันล.ผลิตครูพันธุ์ใหม่เฟส 2 ใน 5 ปี ปั้น 30,000 คน ประกันมีงานทำ – ทุน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2553 13:35 น.

ทุ่ม SP2 อีก 4 พันกว่าล้านผลิตครูพันธุ์ใหม่เฟส 2 ปี 2554-2558 ปั้น 5 รุ่น 30,000 คน จบครุศาสตร์ 5 ปี 17,500 คน จบสาขาอื่นต่อครูอีกปีครึ่ง 12,500 คน พร้อมประกันมีงานทำ ระบุผู้ขอบรรจุพื้นที่ชายขอบ – 3 จชต. มีทุนให้ เล็งยกเครื่องผลิต พัฒนาครูทั้งระบบ สร้างความเข้มแข็งให้กับคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ทั่วประเทศ

รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานคณะอนุกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการครูพันธุ์ใหม่ว่ามี 2 โครงการด้วยกัน โครงการแรก ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว คือ ผลิตครูพันธุ์ใหม่ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 มีเป้าหมายผลิตครู 3 รุ่น ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 – 2554 ทั้งหมด 6,600 คน ในปีแรกมีสถาบันการศึกษาเข้าร่วม 24 แห่ง โดยคัดเด็กเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป เมื่อจบการศึกษาจะบรรจุเข้ารับราชการทันทีในปี 2554 จำนวน 2,000 คน โดยไม่ต้องสอบแต่อย่างใดถือเป็นการประกันการมีงานทำด้วย ส่วนรุ่นที่ 2 มีการประกันการมีงานทำเช่นกันโดยจะคัดเลือกนักศึกษาที่อยู่ชั้นปี 4 และจะมีเวลาบ่มเพาะอีก 1 ปี ในช่วงนี้เด็กจะได้รู้ล่วงหน้าหนึ่งปีว่าจบแล้วจะไปอยู่ที่ไหนในพื้นที่ที่อัตราครูขาดแคลน เช่น อยู่ตามแนวชายขอบ และรุ่นที่ 3 จะมีการประกันการมีงานทำอีกเช่นกัน
รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่ 2 ของครูพันธุ์ใหม่ จะใช้งบประมาณ 4,235 ล้านบาท โดยจะผลิตครู 5 รุ่น ตั้งแต่ปีการศึกษา 2554-2558 รวม 30,000 คน โดยโครงการนี้แบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ กลุ่มที่เรียนครุศาสตร์ 5 ปี 17,500 คน ส่วนผู้ที่จบสาขา เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ภาษาไทย สังคมศึกษาและสาขาใดก็ได้มาเรียนอีกปีครึ่ง เพื่อให้ได้ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู จำนวน 12,500 คน ผู้ที่เข้าโครงการนี้ทั้งหมดจะได้รับประกันการมีงานทำ แต่กลุ่มที่จะบรรจุลงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ชายขอบจะได้รับทุนด้วย

“จำนวน 36,600 คนที่เรียกว่าครูพันธุ์ใหม่ จะออกไปทดแทนครูของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่จะเกษียณอายุใน 10 ปีข้างหน้า 188,000 คน จากครูทั้งหมดที่อยู่ในระบบ 450,000 คน ซึ่งการทดแทนในจำนวนดังกล่าว ถือว่าน้อยมาก แต่เชื่อมั่นว่ามีคุณภาพ ส่วนเรื่องใหญ่ที่กำลังพิจารณาอยู่ในคณะอนุกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา (กนป.) เป็นเรื่องผลิตและใช้ครู พัฒนาครูทั้งระบบ ส่วนการสร้างความเข้มแข็งให้กับคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ในประเทศไทย ซึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือร้อยละ 38 ของอาจารย์คณะครุศาสตร์จะเกษียณอายุ ดังนั้นในส่วนข้อเสนอทั้งหมดนี้จะได้นำเสนอ กนป.ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ต่อไป” รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าว

Leave a comment »

ต่อใบอนุญาตครูต้องมีสอบ

วันที่ 20 สิงหาคม 2551 เวลา 08:37 น. จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ดร.ดิเรก พรสีมา ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวในการเสวนา “ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ในฐานะผู้มีวิชาชีพชั้นสูง กับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา” เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ว่า ที่ผ่านมาคุรุสภาได้ร่วมกับคณะครุศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ กำหนดมาตรฐานหลักสูตรการผลิตครู แต่ขณะนี้มีความสงสัยว่ามหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือไม่ ดังนั้นคุรุสภาจึงมีแนวคิดว่า ต่อไปควรมีการสอบวัดมาตรฐานบัณฑิตที่จบสายครู เพราะเมื่อคุรุสภาให้การรับรองหลักสูตรไปแล้วก็ควรมั่นใจได้

ดร.ดิเรก กล่าวต่อไปว่า ในปี 2552 จะครบกำหนดการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งหลายคนก็กังวลว่าถ้าจะต่อใบอนุญาตฯให้แก่ทุกคนที่หายใจได้ และไม่ต่อใบอนุญาตฯ ให้แก่คนที่หยุดหายใจแล้วจะมีคุรุสภาไปทำไม ดังนั้นคุรุสภาจึงต้องหาวิธีวัดมาตรฐานของครู ซึ่งตนจะหารือกับคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อให้มีการสอบวัดมาตรฐานครู เช่น ครูที่สอนช่วงชั้นที่ 1 (ป.1-ป.3) ก็ต้องนำหลักสูตรช่วงชั้นที่ 1 มาทำเป็นข้อสอบ หากครูสอบได้ไม่ถึง 80% ก็จะไม่ต่อใบอนุญาตให้ เป็นต้น รวมทั้งจะนำข้อมูลที่ได้จากการประเมินของ สมศ. มาประกอบการพิจารณาการต่อใบอนุญาตทั้งครูและผู้บริหารด้วย.

Leave a comment »